ตั้งทีมสอบสวน 100 นาย คลี่คดีเผาเรือนจำกระบี่ ขณะชาวบ้านจี้ย้ายพ้นพื้นที่หวั่นเกิดเหตุซ้ำ


  ตั้งทีมสอบสวน 100 นาย คลี่คลายคดีเผาเรือนจำกระบี่ เบื้องต้น มีผู้กระทำผิดประมาณ 40 ราย ขณะที่ชาวบ้านสุดทนรวมตัวยื่นหนังสือจี้ย้ายเรือนจำ หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอย


สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนักโทษที่ก่อเหตุเผาเรือจำกระบี่ วันนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้ลงพื้นที่เรือนจำ จ.กระบี่ เพื่อติดตามและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่คลี่คลายคดีในการก่อเหตุจลาจลของนักโทษในเรือนจำ จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ต่อเนื่อง 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เรือนนอนนักโทษชาย ห้องสมุด และอื่นๆได้รับความเสียหายจำนวนมากจากเหตุถูกวางเพลิง

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อจลาจลในเรือนจำ จ.กระบี่ เบื้องต้น ได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนภาค 8 ประมาณ 100 นาย เข้ามาช่วยทำคดี โดยจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เป็นแกนนำเป็นผู้กระทำความผิดในการทำลายทรัพย์สิน เผาวางเพลิงหรือกระทำการให้เสียทรัพย์ภายในเรือนจำ ต้องมีทั้งพยานบุคคลนิติวิทยาศาสตร์ ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งพบว่าเสียหายไปบางส่วนหากกู้ได้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการเป็นหลักฐานเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้น มีไม่น้อยกว่า 40 ราย


สำหรับผู้ต้องขัง ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ได้ย้ายไปอยู่ตามเรือนจำต่างๆ เช่น ผู้ต้องขังหญิง เรือนจำสงขลา ผู้ต้องขังชาย เรือนจำ ภูเก็ต นาทวี ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา นครศรี และเรือนจำเขาบิน เฉพาะแกนนำ 41 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่มีบรรดาญาติๆ ของผู้ต้องขังได้เดินทางเข้ามาติดต่อสอบถามถึงสถานที่ต้องขังนักโทษเป็นจำนวนมากด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบสถานที่ที่ถูกย้ายตัวไปกักขัง เบื้องต้น ทางเรือนจำกระบี่ ได้ทำทะเบียนบุคคลและสถานที่ย้ายที่กักขังแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบแล้ว

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (20 ธ.ค.) กลุ่มกระบี่ไม่ทน พร้อมด้วยประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ (หลังเก่า) เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ขอให้ย้ายสถานที่ตั้งเรือนจำจังหวัดกระบี่ โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รอง ผวจ.กระบี่ รับหนังสือ


ตัวแทนกลุ่มกระบี่ไม่ทน กล่าวว่า จากเหตุการณ์การก่อจลาจลของนักโทษในเรือนจำจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 16-17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้บานปลายจนถึงขั้นเผาทำลายอาคารสถานที่นั้น ได้สร้างความวิตกกังวลต่อประชาชนในชุมชนละแวกใกล้เคียงและประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ เป็นอย่างมากในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตของประชาชนจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่คล้ายคลึงกันนี้ซึ่งอาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

หลายปีที่ผ่านมา ภาคประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการใช้สถานที่ตั้งเรือนจำจังหวัดกระบี่ด้วยรายล้อมไปด้วยโรงเรียนระดับอนุบาลจนถึงมัธยม ศูนย์ราชการหลายแห่ง อาคารพาณิชย์ และบ้านเรือนของประชาชนในชุมชนโดยรอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุการณ์เสี่ยงอันตรายต่อชุมชนหลายครั้ง เช่น เหตุนักโทษแหกคุก และแม้จะมีสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ได้บรรเทาความกังวลของประชาชนลงเลย

เรา ‘กลุ่มกระบี่ไม่ทน’ จึงขอยื่นหนังสือนี้ถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.กรมราชทัณฑ์ต้องย้ายสถานที่ตั้งเรือนจำจังหวัดกระบี่ให้ห่างไกลจากเขตชุมชนในทันที โดยต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีชุมชนเบาบาง หรือปราศจากบ้านเรือน และมีระยะเวลาดำเนินการกระบวนการทั้งหมดให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไม่เกิน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เราได้ยื่นหนังสือฉบับนี้


2.เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต กรมราชทัณฑ์ต้องบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ของนักโทษให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและคุณภาพชีวิตของนักโทษเป็นสำคัญ เช่น การตรวจหาเชื้อเชิงรุก การคัดแยกผู้ป่วย หรือการขยายเรือนจำเพื่อลดความแออัดของนักโทษ เป็นต้น และ 3.กรมราชทัณฑ์ต้องสอบสวนหาผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคลากรคนอื่นๆ ในการปฏิบัติงานด้วยความละเลย หรือประมาทเลินเล่อ ทั้งยังต้องชี้แจงต่อสาธารณะถึงผลการสอบสวนและลงโทษผู้รับผิดชอบ

เรา ‘กลุ่มกระบี่ไม่ทน’ ขอเร่งรัดให้ท่านตอบรับข้อเรียกร้องในหนังสือนี้ต่อสาธารณะภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่เราได้ยื่นหนังสือนี้และปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของเรา เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวจังหวัดกระบี่

ด้านนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รอง ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า จะรายงานให้ทาง ผวจ.กระบี่ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รับทราบความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการจะให้ย้ายเรือนจำไปอยู่ที่อื่น ทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์ มีที่ดินที่จะสร้างเรือนจำแห่งใหม่ในกระบี่อยู่แล้ว แต่ติดขัดที่งบประมาณในดารก่อสร้าง แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางกรมราชทัณฑ์คงจะมีทางออกให้ชาวกระบี่





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า