ผู้ว่าฯ ตรัง ควงนายแพทย์สาธารณสุขลงพบปะตรวจเยี่ยมจัดการเรียนการสอนยุคโควิด


 ผู้ว่าร่าชการจังหวัดตรัง ควงนายแพทย์สาธารณสุข ลงพบปะตรวจเยี่ยมสังเกตการณ์จัดการเรียนการสอนยุคโควิด ขณะที่นักเรียนบางห้องเหงาเพราะยังมาเรียนไม่กี่คน บอกชวนเพื่อนกลับมาเรียนตามปกติโดยเร็ว

วันนี้ (21 ธ.ค.) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายแพทย์ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ลงพื้นที่พบปะกับผู้บริหาร บุคลากรครู และนักเรียน รวมทั้งตรวจเยี่ยมสังเกตการณ์จัดการเรียนการสอน ภายใต้แผนปฏิบัติการที่ได้นำเสนอต่อ ศบค.ตรัง ในการพิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียนแบบ On Site ที่โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน 1 ในจำนวน 8 โรง ในระดับมัธยมที่ ศบค.ตรัง พิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียนนำร่องแบบ on site ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พบว่ามีนักเรียนมาเรียนเพียง 343 คน จากทั้งหมดกว่า 700 คน ซึ่งไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยทางโรงเรียนได้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด เช่น จำกัดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ นักเรียนทุกคนต้องผ่านการฉีดวัคซีน มีการตรวจ ATK นักเรียนทุกคน ทุกสัปดาห์ มีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน มีฉากกั้นขณะรับประทานอาหาร มีการเหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันและเลิกเรียน และการสอนทั้งแบบ On Site ควบคู่ไปกับการเรียน On line ของนักเรียนที่ยังอยู่ที่บ้าน มีการขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้างดการจำหน่ายอาหารหน้าโรงเรียน เพื่อลดความแออัดและลดการสัมผัสกับบุคคลภายนอก และมีการเตรียมตึก สำหรับแยกกักตัวในโรงเรียน ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุสำหรับคัดแยกนักเรียนและบุคลากรครูหากพบติดเชื้อ พร้อมทำ MOU กับโรงพยาบาลเอกชน ในการรับตัวนักเรียนไปตรวจซ้ำ และเข้าระบบการรักษาหากพบผลเป็นบวก

นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในจังหวัดตรังขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณวันละ 60-65 คน ส่วนประชากรทั้งหมดจาก 630,000 คน ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ โรงเรียนที่เหลือหากพร้อมเปิดเรียนจะต้องนำเสนอแผนมาให้ ศบค.ตรัง พิจารณา พร้อมถามความสมัครใจของผู้ปกครองที่จะให้บุตรหลานมาโรงเรียนไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และทางโรงเรียนจะต้องสำรวจกลุ่ม 608 ของครอบครัวนักเรียนด้วยว่า จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว หากใครยังไม่ฉีดพร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดให้ พร้อมประชาสัมพันธ์ไปยังนักเรียน และผู้ปกครองที่ยังลังเล ยังไม่กล้ามาโรงเรียน ให้เตรียมตัวเองให้พร้อม ทั้งตัวนักเรียน และคนในบ้าน และให้มั่นใจกับมาตรการของทางโรงเรียนว่าดูแลเอาใจใส่นักเรียนทุกคนเหมือนเป็นลูก


อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมนายแพทย์สาธารณสุข เข้าตรวจเยี่ยมนักเรียนถึงในห้องเรียน ทั้งห้องที่มีนักเรียนมาเรียนน้อยคน และห้องที่นักเรียนมาเรียนอย่างพร้อมเพรียง โดยพบว่าบรรยากาศการเรียนต่างกันอย่างมาก โดยที่ห้องเรียนชั้น ม.6/2 พบว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก เพราะมีนักเรียนรวมกัน 3 คน เป็นนักเรียนชาย 1 คน และนักเรียนหญิง 2 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งห้อง 27 คน

เมื่อผู้ว่าฯ สอบถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง การเรียนในห้องเรียนกับการเรียนออนไลน์อยู่บ้าน แตกต่างกันอย่างไร นักเรียนได้แต่มองหน้ากันเพราะมันเงียบเหงา เพื่อนส่วนใหญ่ยังไม่กล้ามาเรียน เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรเพื่อนๆ บ้าง นักเรียนชายบอกว่า เพื่อนๆ มาโรงเรียนได้แล้วครับ เมื่อถามว่า ทำไมเหงาหรือ น้องนักเรียนผู้ชายได้หันหน้าไปมองเพื่อนๆ อีก 2 คนที่เหลือ พร้อมกับบอกว่า ก็มากันแค่นี้ เรียกเสียงหัวเราะครื้นเครง

เมื่อผู้ว่าฯ ถามว่า แล้วได้คุยกับเพื่อนๆ บ้างหรือไม่ว่าทำไมยังไม่มาเรียน น้องผู้ชายบอกว่า เพื่อนๆ บางคนบอกว่า ที่บ้านและที่ชุมชนของตนเองยังเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่จึงไม่อยากมาเรียน เพราะห่วงจะติดเชื้อและนำเชื้อมาติดเพื่อนๆ และคุณครู ผู้ว่าฯ จึงถามว่า อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ให้ปฏิบัติตัวอย่างไร และจะให้ความมั่นใจกับเพื่อนๆ ว่าอย่างไรบ้างเพื่อให้มาโรงเรียน น้องนักเรียนชายบอกว่า ให้รีบดูแลตัวเองดีๆ แล้วรีบมาโรงเรียน ดูแลตัวเองดีๆ ในที่นี้หมายถึงดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ และให้ฉีดวัคซีน เมื่อถามว่าคิดถึงมากหรือไม่ น้องนักเรียนผู้ชายบอกว่า นานแล้วไม่เจอกัน จึงเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างครื้นเครงอีกครั้ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ความมั่นใจว่ามีเพื่อนๆ ตอบรับจะมาเรียนเพิ่มอีกเป็น 100 คน ในสัปดาห์นี้


ผิดกับอีกห้องที่นักเรียนทั้งชายหญิงมากันพร้อมเพรียงก็จะอบอุ่น โดยผู้ว่าฯ ได้เข้าไปสอบถามหัวหน้าห้องว่า ฉีดวัคซีนกี่เข็มแล้ว ได้รับคำตอบว่า ฉีด 2 เข็มแล้ว เมื่อถามว่าแล้วทุกคนในบ้านฉีดครบทุกคนหรือยัง ได้รับคำตอบว่า ฉีดครบหมดแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ชมว่าเยี่ยมมาก พร้อมกับถามว่า จะฉีดเข็ม 3 หรือไม่ นักเรียนตอบว่า ถ้าให้ก็พร้อมจะฉีด โดยนายแพทย์สาธารณสุขบอกว่า รอให้เข็ม 2 ครบ 3 เดือนก่อนจะฉีดเข็ม 3 ให้ ซึ่งวัคซีนมีพร้อม โดยหัวหน้าห้องให้ความมั่นใจกับเพื่อนๆ ว่า ทางโรงเรียนมีความพร้อมเต็มที่ในการดูแล อยากให้เพื่อนๆ และผู้ปกครองไว้ใจคุณครู และมาตรการของโรงเรียน อยากให้มาโรงเรียน




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า