โดยโครงการนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนล้นหลาม สามารถช่วยต่อชีวิตได้จริง และมีการเปิดให้ลงทะเบียนไปแล้ว ดังนั้น กระปุกดอทคอมจะมาสรุปรายละเอียดของโครงการนี้อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์โครงการ
จัดทำเพื่อให้ประชาชนมีเงินทุนในการประกอบอาชีพ เสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพจากการได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด และต้องไม่เป็นการนำไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อเช่าซื้อ
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ

2. มีถิ่นที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการแน่นอน
3. ไม่เป็นลูกจ้าง พนักงาน ผู้บริหาร หรือกรรมการของธนาคารออมสิน
4. เป็นผู้เริ่มประกอบอาชีพ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ที่ผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่มีความน่าเชื่อถือหรือมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพดังกล่าวมาแล้ว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- ผู้เริ่มประกอบอาชีพ ผู้ประกอบการรายย่อย ประกอบด้วย ผู้ที่ผ่านการอบรมอาชีพ "ช่าง" ทุกประเภท เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย ตัดผม เป็นต้น และ ผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น จำหน่ายสินค้าออนไลน์ การดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง การจัดดอกไม้ เป็นต้น โดยมีใบประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานรัฐ เอกชน หรือเอกสารอื่น ๆ ตามประเภทของอาชีพ
- ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ รถรับจ้างขนส่งสินค้า โดยมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ หรือเอกสารอื่น ๆ ตามประเภทของอาชีพ
- ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่มีสถานที่จำหน่าย หรือสถานที่ให้บริการ ที่แน่นอน เช่น ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ ร้านนวดแผนไทย ร้านสปา อู่ซ่อมรถ เป็นต้น โดยมีทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า สัญญาแฟรนไชส์ หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่น ๆ
จำนวนเงินให้กู้

กู้ได้ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอาชีพที่ผู้กู้ด้วย ได้แก่
- ผู้ประกอบวิชาชีพช่าง เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้ประกอบอาชีพเสริมสวย ตัดผม เป็นต้น กู้ได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
- ผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่ช่าง เช่น จำหน่ายสินค้าออนไลน์ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง การจัดดอกไม้ เป็นต้น กู้ได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
- ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ รถรับจ้างขนส่งสินค้า กู้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท
- ผู้ประกอบการร้านค้าแฟรนไชส์ กู้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท
- ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีสถานที่จำหน่ายที่แน่นอน เช่น ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ ร้านนวดแผนไทย ร้านสปา อู่ซ่อมรถ เป็นต้น กู้ได้ไม่เกิน 3 แสนบาท
อัตราดอกเบี้ย
มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี (Effective Rate) ตลอดอายุสัญญากู้เงิน
ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้
มีเวลาชำระเกิดสูงสุดไม่เกิน 5 ปี (60 งวด) ซึ่งเงื่อนไขนี้จะรวมกับช่วงที่ไม่ต้องผ่อนคืน 6 เดือนแรกด้วย จนกว่าจะปิดบัญชีหรือครบสัญญา
หลักประกันการกู้
- ถ้ากู้ไม่เกิน 1 แสนบาท ไม่มีหลักประกัน
- ถ้ากู้ระหว่าง 1 แสน - 3 แสนบาท ใช้บุคคลค้ำประกัน และบุคคลค้ำประกันจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 10% ของวงเงินกู้ เช่น กู้เงิน 1 แสนบาท คนค้ำประกันจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท เป็นต้น
ช่องทางการขอสินเชื่อ
สามารถขอได้ผ่านเว็บไซต์ ธนาคารออมสิน หรือติดต่อที่สาขาของธนาคารใกล้บ้านท่าน
เอกสารการขอสินเชื่อ ต้องใช้อะไรบ้าง
เอกสารต่าง ๆ ที่ใช้ หลัก ๆ จะมีอยู่ 2 ข้อ ได้แก่
1. บัตรประชาชนผู้ขอกู้
2. ทะเบียนบ้านผู้ขอกู้
ส่วนเอกสารอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมา จะขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งจะแตกต่างกันไป ดังนี้
- ผู้ประกอบวิชาชีพช่าง และผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่ช่าง จะมีเอกสารเพิ่มเติม คือ
1. ใบประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานรัฐ เอกชน หรือเอกสารอื่น ๆ ตามประเภทของอาชีพ (ฉบับจริง)
2. รูปถ่ายสถานประกอบการ (ถ้ามี)
- ผู้ขับขี่รถสาธารณะ มีเอกสารเพิ่มเติม คือ
1. ใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ (ฉบับจริง)
2. รูปถ่ายสถานประกอบการ (ถ้ามี)
- ผู้ประกอบการร้านค้าแฟรนไชส์ มีเอกสารเพิ่มเติม คือ
1. เอกสารที่รับรองจากแฟรนไชส์เซอร์ เช่น สัญญาจะซื้อจะขาย สัญญามัดจำ หนังสือผ่านสิทธิ เป็นต้น
2. เอกสารประมาณการ รายรับ-รายจ่าย ของธุรกิจแฟรนไชส์ (ตัวอย่างแบบฟอร์มเอกสารตาม Link นี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำเอกสารในการยื่นขอกู้ )
3. รูปถ่ายสถานประกอบการ (ถ้ามี)
- ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีสถานที่จำหน่ายที่แน่นอน มีเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่
1. บัญชีรับจ่าย Statement รายได้จากสถานประกอบการ ย้อนหลัง 6 เดือน
2. ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ ของสถานประกอบการ
3. รูปถ่ายสถานประกอบการ (ถ้ามี)
ระยะเวลาโครงการ
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ผ่านธนาคารออมสิน โดยจะต้องอนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้เสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 หรือจนกว่าเงินโครงการจะหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารออมสิน