กลัวคนรังเกียจ! ตรังเร่งแจกถุงยังชีพผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่กล้าออกไปซื้อของกินแม้แพทย์จะอนุญาต


  ผู้นำชุมชน และ อสม.ต้องเร่งแจกถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน ในบริการ “เจอ แจก จบ” เพื่ออุดช่องโหว่ หลังพบผู้ป่วยสีเขียวจำนวนมากไม่กล้าออกนอกบ้านไปซื้อของกิน และพบบางคนยังนำขยะติดเชื้อไปใส่ถังขยะทั่วไป


วันนี้ (11 มี.ค.) ที่จังหวัดตรัง จากบริการเจอ แจก จบ คัดแยกผู้ติดเชื้อออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มส้ม-แดง รักษาในโรงพยาบาล 2.กลุ่มสีเหลือง รักษาอยู่กับบ้าน ห้ามออกนอกบ้าน และ 3.กลุ่มสีเขียว รักษาตัวอยู่กับบ้าน ให้สามารถออกไปซื้ออาหารได้ อย่างไรก็ตามพบว่าในกลุ่มรักษาอยู่กับบ้านบางคนไม่กล้าออกนอกบ้านไปซื้ออาหาร เพราะกลัวคนจะรังเกียจ ทำให้ทางผู้นำชุมชน และ อสม.ต้องขอรับถุงยังชีพมาช่วยเหลือโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมืองตรัง

นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้มีทางผู้นำชุมชนรวมทั้ง อสม.ร้องขอถุงยังชีพมาวันละมากกว่า 100 ชุด ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ต้องนำไปช่วยวันละประมาณ 200-300 ชุด


ส่วนการปรับวิธีการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนตัวมองว่ามาถูกทางแล้ว เพราะประชาชนเหล่านี้มีอาการน้อย แต่สำหรับประชาชนบางครอบครัวที่มีทั้งผู้ติดเชื้อและไม่ติดเชื้ออยู่ร่วมบ้านเดียวกัน อาจเป็นปัญหาในการป้องกันตนเอง เพราะต้องป้องกันไม่ให้ติดเชื้ออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการแยกห้อง

และบางครอบครัวพบว่า สมาชิกในบ้านต้องแยกออกมานอนในเต็นท์นอกบ้าน เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ แต่จำเป็นต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันจึงต้องใช้สเปรย์ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ นอกจากนั้น กลุ่มสีเขียวที่แพทย์อนุญาตให้ออกนอกบ้านไปซื้ออาหารได้นั้นบางส่วนก็ไม่กล้าไป ทำให้ต้องเร่งนำถุงยังชีพเข้าช่วยเหลือ เพราะการดูแลของภาครัฐอาจไม่ทั่วถึง จึงต้องการอุดช่องโหว่เพื่อช่วยเหลือประชาชน

อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ติดตามสภาพความเป็นอยู่ของผู้ติดเชื้อ หลังจากกระทรวงสาธารณสุขพยายามให้ผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียวพักรักษาตัวอยู่กับบ้าน พบว่าบางคนได้ถุงแดงสำหรับเก็บขยะติดเชื้อ แต่นำไปทิ้งในถังขยะทั่วไปนอกบ้าน แต่บางหมู่บ้านทางเจ้าหน้าที่ อสม.จะติดตามดูแลใกล้ชิด พร้อมกำชับให้นำเอาขยะติดเชื้อไปส่งให้ รพ.สต. ในวันที่ครบกำหนดรักษา 10 วัน











    ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า