อดีต ส.ส.ตรัง
แฉมาตรการช่วยชาวสวนยางล่าสุดของรัฐบาลชุดนี้
เป็นการเมืองน้ำเน่าที่เอางบมาหาเสียง และหวังได้คะแนนนิยมก่อนเลือกตั้ง
เพราะทำราคายิ่งตกลง 3 กิโลไม่ถึง 100 บาทแล้ว
นายแพทย์สุกิจ
อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
จากสถานการณ์ยางพาราตกต่ำในขณะนี้ ตนเองเป็นหัวหน้าทีมของพรรคประชาธิปัตย์
ได้ไปยื่นหนังสือให้แก่นายกรัฐมนตรี เมื่อประมาณครึ่งเดือนที่ผ่านมา
พร้อมมีแนวทางเสนอไว้มากมาย แต่สิ่งที่ทางรัฐบาลออกมาช่วยในตอนนี้
ตนมองว่ายุทธวิธีเป็นการเมืองแบบน้ำเน่าที่เอางบประมาณมาหาเสียง
เพราะเงินกว่าหมื่นล้าน รัฐบาลหวังจะดับกระแสเท่านั้น
ไม่ได้ช่วยอะไรจริงจังเลย และหวังฉวยโอกาสจะซื้อใจประชาชนไปด้วย
ตนเชื่อว่าความคิดของรัฐบาล ก็คือต้องการให้พรรคที่จะมาหนุนรัฐบาลในตอนนี้ จัดตั้งโดยคนในรัฐบาล แล้วจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป และจะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ถ้าถามว่าวิธีการนี้ได้ผลหรือไม่ ในส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนก็ดี อย่างน้อยก็บรรเทาความทุกข์ร้อน แต่ถ้าถามว่าช่วยให้ราคายางสูงขึ้นหรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ได้ผลเลย เพราะจะสังเกตเห็นได้ว่าพอรัฐบาลออกมาตรการนี้มา ราคายางพาราก็ยิ่งตกลง จน 3 กิโลไม่ถึง 100 บาทแล้ว หรือน้ำยางสดอยู่ที่กิโลละ 29-31 บาทเท่านั้น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลบอกให้หยุดกรีด แล้วจะช่วยเหลือระยะ 10 เดือนนั้น ทั้งที่อีก 2 เดือนข้างหน้าก็เข้าสู่ฤดูแล้ง และชาวบ้านก็กรีดยางไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น มาตรการนี้จะช่วยได้จริงหรือเปล่า และทำไมไม่ออกในช่วงที่ยางเยอะๆ หรือการนำน้ำยางมาทำถนนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถามว่ารัฐบาลได้ทำจริงจังหรือไม่ เมื่อก่อนนี้มีการคำนวณว่า เมื่อเอายางพารามาทำถนน ราคาจะสูงกว่าใช้ยางมะตอย 17-20 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันรัฐบาลนี้กลับทำพังหมด เพราะปล่อยให้มีการผูกขาดขึ้นมา จนสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น อบจ.หรือ อบต.ที่ไหนก็ไม่กล้าทำ
สำหรับแนวคิดของการช่วยชาวสวนยางนั้น ตนมองว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ดีที่สุด และในอนาคตจะดีที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะตนเป็นหัวหน้าทีมในการร่างนโยบายเอง ซึ่งจะช่วยให้ราคายางพาราอยู่แบบยั่งยืนถาวร และช่วยเรื่องความเป็นอยู่ของเกษตรกร หรือทำให้ครบวงจรทุกอย่าง
ตนเชื่อว่าความคิดของรัฐบาล ก็คือต้องการให้พรรคที่จะมาหนุนรัฐบาลในตอนนี้ จัดตั้งโดยคนในรัฐบาล แล้วจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป และจะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ถ้าถามว่าวิธีการนี้ได้ผลหรือไม่ ในส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนก็ดี อย่างน้อยก็บรรเทาความทุกข์ร้อน แต่ถ้าถามว่าช่วยให้ราคายางสูงขึ้นหรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ได้ผลเลย เพราะจะสังเกตเห็นได้ว่าพอรัฐบาลออกมาตรการนี้มา ราคายางพาราก็ยิ่งตกลง จน 3 กิโลไม่ถึง 100 บาทแล้ว หรือน้ำยางสดอยู่ที่กิโลละ 29-31 บาทเท่านั้น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลบอกให้หยุดกรีด แล้วจะช่วยเหลือระยะ 10 เดือนนั้น ทั้งที่อีก 2 เดือนข้างหน้าก็เข้าสู่ฤดูแล้ง และชาวบ้านก็กรีดยางไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น มาตรการนี้จะช่วยได้จริงหรือเปล่า และทำไมไม่ออกในช่วงที่ยางเยอะๆ หรือการนำน้ำยางมาทำถนนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถามว่ารัฐบาลได้ทำจริงจังหรือไม่ เมื่อก่อนนี้มีการคำนวณว่า เมื่อเอายางพารามาทำถนน ราคาจะสูงกว่าใช้ยางมะตอย 17-20 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันรัฐบาลนี้กลับทำพังหมด เพราะปล่อยให้มีการผูกขาดขึ้นมา จนสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น อบจ.หรือ อบต.ที่ไหนก็ไม่กล้าทำ
สำหรับแนวคิดของการช่วยชาวสวนยางนั้น ตนมองว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ดีที่สุด และในอนาคตจะดีที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะตนเป็นหัวหน้าทีมในการร่างนโยบายเอง ซึ่งจะช่วยให้ราคายางพาราอยู่แบบยั่งยืนถาวร และช่วยเรื่องความเป็นอยู่ของเกษตรกร หรือทำให้ครบวงจรทุกอย่าง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์