บ้านไสไทย ต.อ่าวตง
อ.วังวิเศษ เป็นหมู่บ้านเดียวใน จ.ตรัง
ที่พบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมากที่สุด และยังคงนำมาทำเป็นข้าวเหนียวนึ่งขาย
ด้วยรสชาติที่แสนอร่อย เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน
ชาวบ้านบ้านไสไทย หมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
จะออกไปเก็บต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งชอบขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ในป่าพรุ
หรือในป่าดิบชื้นเชิงเขาหลายแห่งในหมู่บ้าน
อันเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และเป็นหมู่บ้านเดียวในจังหวัดตรัง
ที่พบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงได้มากที่สุด
ซึ่งในอดีตมีการนำมาใส่ข้าวเหนียวนึ่งทำขนมทานกันในหมู่บ้าน ต่อมา
มีขนมขบเคี้ยวยี่ห้อต่างๆ เข้ามาในหมู่บ้าน
ทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักการทานข้าวเหนียวจากต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงอีก
ดังนั้น นายอาคม ครชาตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลอ่าวตง จึงเกิดแนวความคิดในการรวมกลุ่มแม่บ้าน เพื่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และต่อยอดการใช้ประโยชน์จากต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ด้วยการนำมาทำขนมขาย โดยผ่านกรรมวิธีการล้างให้สะอาด แล้วใส่ข้าวเหนียวที่แช่น้ำทิ้งไว้แล้ว 4 ชั่วโมง ก่อนเติมน้ำกะทิ ผสมเกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงนำมารับประทานได้ทั้งเปลือก ซึ่งให้รสชาติที่หอมหวานมันเค็มกำลังดี จนกลายเป็นจุดขายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และยังได้บรรจุอยู่ในของดีของชุมชนตามโครงการ โอทอป นวัตกรรมวิถีบ้านไสไทย ด้วย
โดยจะให้กลุ่มแม่บ้านนำออกจำหน่ายในงานต่างๆ
รวมทั้งนำไปร่วมกิจกรรมในหมู่บ้าน จนสร้างชื่อเสียงให้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังต่อยอดด้วยการนำต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมาเพาะขยายพันธุ์
เพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยวในราคาถูก
พร้อมนำไปจัดแสดงในงานนิทรรศการต่างๆ
และนำไปตกแต่งสถานที่จนได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านได้เป็นอย่างมาก
สามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มแม่บ้านเดือนละหลายพันบาท
ขณะที่ส่วนยอดอ่อนของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ยังนำมาแกงส้ม แกงกะทิ
และเป็นผักเครื่องเคียงได้ด้วย
น.ส.วีรวรรณ ราชเดิม อายุ 43 ปี สมาชิกกลุ่มแม่บ้านทำข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิงบ้านไสไทย กล่าวว่า เนื่องจากวัตถุดิบทุกชนิดในหมู่บ้านมีเยอะ ทั้งต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง และมะพร้าว จึงสามารถทำออกขายได้ทุกฤดูกาล และลูกค้าก็ชอบมาก เพราะเป็นขนมที่แปลกใหม่ นอกจากนั้น ในอนาคตอันใกล้จะทำการเพาะขยายพันธุ์ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ และเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย
น.ส.วีรวรรณ ราชเดิม อายุ 43 ปี สมาชิกกลุ่มแม่บ้านทำข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิงบ้านไสไทย กล่าวว่า เนื่องจากวัตถุดิบทุกชนิดในหมู่บ้านมีเยอะ ทั้งต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง และมะพร้าว จึงสามารถทำออกขายได้ทุกฤดูกาล และลูกค้าก็ชอบมาก เพราะเป็นขนมที่แปลกใหม่ นอกจากนั้น ในอนาคตอันใกล้จะทำการเพาะขยายพันธุ์ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ และเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์