ตร.ตรังเร่งสางคดีหนุ่มดับปริศนาริมคลอง ญาติเชื่อถูกฆาตกรรม อาจพัวพันลูกคนมีสี


ตำรวจตรังเร่งสางคดีหนุ่มวัย 24 ปี เป็นศพดับปริศนาในคลองสาธารณะ ต.คลองปาง อ.รัษฎา เมื่อ 6 เดือนก่อน จนพ่อแม่ต้องบุกร้องกองปราบ เพราะเชื่อว่าถูกฆาตกรรม และอาจพัวพันลูกคนมีสีในพื้นที่
จากกรณีที่ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา นายเวียง สิทคชวัน อายุ 57 ปี และนางเครือวัลย์ สิทคชวัน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิสูตร บุญยังมาก รอง สว.สอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ให้ช่วยคลี่คลายคดีที่ นายธนวิชญ์ หรือหมู สิทคชวัน อายุ 24 ปี ลูกชายเสียชีวิตปริศนา ที่บริเวณคลองสาธารณะ ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่คดีผ่านมา 6 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นลูกชายบุญธรรมของตำรวจในพื้นที่

ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.สันทัด วินสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผกก.สภ.รัษฎา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 บ้านด่านสาย ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง อีกครั้ง เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานพยานเพิ่มเติม หลังจากนั้นที่ สภ.รัษฎา พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภจว.ตรัง ได้เรียกประชุมด่วนชุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพได้จากข้างนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของ นายเวียง สิทคชวัน เลขที่ 54/1 หมู่ 9 บ้านด่านสาย ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยพบกับ นายเจือ ปราบเขต อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/9 หมู่ 5 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของผู้ตาย พร้อมด้วย น.ส.ณัฐณิชา สิทคชวัน อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตาย ได้นำผู้สื่อข่าวไปที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณสวนยางพาราติดคลองด่านสาย อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร เพื่อชี้จุดที่นายธนวิชญ์ สิทคชวัน อายุ 24 ปี นอนเสียชีวิตในวันที่ 8 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายเจือ ปราบเขต ซึ่งเป็นลุง เล่าว่า วันนั้นตนเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่น้องสาวโทรตาม ตนเองก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจก็เคลียพื้นที่กันเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมอทั้งตำรวจได้สรุปกันว่า หลานชายโดนไฟช็อต แต่ต่อมาเมื่อนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดควนเมา ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ก็ได้วิเคราะห์กันว่า ถ้าจมน้ำก็ไม่ใช่ ไฟช็อตก็ไม่ใช่ เพราะถ้ามีไฟฟ้า แม่ของผู้ตายที่กระโดดลงไปช่วยขึ้นมา ก็คงโดนไฟช็อตด้วย ก็เลยตกลงกันว่าจะไม่เผาศพ และพาศพส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ จึงเชื่อว่าถูกฆาตกรรม เพราะศีรษะโดนกระแทกอย่างแรง และด้านหลังเป็นแผล จำนวน 7 แผล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ลงมือมีเอี่ยวกับลูกคนมีสีนั้น ตนเองก็ได้ยินจากข่าวมาเหมือนกัน และยังงงๆ อยู่

ด้าน น.ส.ณัฐณิชา สิทคชวัน ซึ่งเป็นน้องสาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พี่ชายทำงานอยู่ จ.ภูเก็ต ซอยบางลา แม่โทรให้พี่ชายกลับมาสอบตำรวจ แต่ก็สอบไม่ผ่านตอนสัมภาษณ์ ก็เลยออกจากงานกลับมาอยู่ที่บ้านใน จ.ตรัง แม่ก็เลยสั่งให้พี่ชายช่วยทำสวนไถดินปลูกผัก และได้มาช่วยต่อสายท่อพีวีซีเข้ากับเครื่องสูบน้ำ จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนเองมั่นใจว่าพี่ชายไม่ได้ตายจากสาเหตุไฟช็อต เพราะถ้าเกิดจากไฟช็อตแม่ก็จะโดนด้วย พร้อมยืนยันว่าพี่ชายไม่มีศัตรูอย่างแน่นอน แต่อาจจะไปรู้ความลับอะไรจากใครก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ส่วนศพของพี่ชายยังเก็บไว้อยู่ที่โรงพยาบาลตรัง ยังไม่เผาเพราะจะรอจนถึงที่สุด เพื่อจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้
นอกจากนี้ จากการสอบถามเพื่อนบ้าน (ทางเจ้าตัวขอไม่เปิดเผยชื่อ และภาพ) โดยเล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองนอนอยู่บ้าน ประมาณเวลา 12.00 น. ได้ยินเสียงมีคนร้องว่าโอ๊ยๆๆๆ แต่ก็คิดว่ามีคนมาหาปลา เพราะแถวนั้นเป็นบริเวณคลอง และคงโดนฉมวกแทงขา ก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด จากนั้นประมาณ 15 นาที ก็ได้ยินเสียงคนร้องเสียงดัง จึงคิดว่าใครเป็นลม จึงพากันไปดูก็พบว่ามีคนเสียชีวิต และไม่คิดว่าจะเป็นนายธนวิชญ์ เพื่อนบ้าน
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ ผัวเมียร้องทนายรณณรงค์ สงสัยลูกชายถูกลูกตำรวจฆ่าตายคดีไม่คืบ

๐ พ่อแม่ร้องกองปราบฯ คลี่คลายคดีลูกชายตายปริศนา สงสัยลูกตำรวจก่อเหตุปมชู้สาว









ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า