สองสามีภรรยาชาวตรัง นำกาบปลีกล้วยเหลือใช้ มาทำเป็นกระทงใส่ผัดไทยโบราณทรงเครื่อง เพื่อช่วยลดโลกร้อนแทนการใช้พลาสติก สร้างความแปลกตาและความชื่นชอบให้แก่ลูกค้า
วันนี้ (22 ต.ค.) นายชัยฤทธิ์ วอนยินดี อายุ 69 ปี และนางลัดดาวัลย์ ชนะศรี อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาชาวตรัง เจ้าของร้านผัดไทยโบราณทรงเครื่องห่อกระทงปลีกล้วย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงานบริษัทเอกชนและเป็นอดีตผู้จัดการโรงงานแปรรูปอาหารทะเล ส่วนเมนูผัดไทยได้รับการสืบทอดมาจากคุณย่าตั้งแต่เมื่อ 40-50 ปีก่อน และได้ถ่ายทอดมาให้คุณแม่และตนเองในที่สุด
จนกระทั่งเมื่อมีการเปิดตลาดนัดชุมชนลานดอกโดน ในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านคลองคุ้ย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทุกวันอาทิตย์ ตนเองและภรรยาจึงตัดสินใจลาออกจากงานเอกชนเพื่อมาเปิดร้านขายผัดไทยในซุ้มศาลา และได้ใช้กาบปลีกล้วยมาทำเป็นกระทงใส่ผัดไทย เพื่อต้องการช่วยลดโลกร้อน ซึ่งสร้างความแปลกตาและความชื่นชอบให้แก่ลูกค้าจนมีผลตอบรับที่ดีมาก
สำหรับผัดไทยโบราณทรงเครื่องห่อกระทงปลีกล้วยของร้านนี้ จะมีรสชาติครบเครื่องเหมือนชื่อ คือ ทั้งหวาน เปรี้ยว และเค็ม รวมทั้งยังมีกุ้งแห้ง กุ้งแดง ไชโป๊ว เต้าหู้ และเครื่องเคียงอื่นๆ ครบเครื่อง ส่วนการนำปลีกล้วยมาทำเป็นกระทงใส่ผัดไทยเกิดจากแนวคิดที่ว่า ทางตลาดนัดต้องการให้บรรจุภัณฑ์ต่างๆ เป็นธรรมชาติ ย่อยสลายได้ และไม่ใช้พลาสติกแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งปกติปลีกล้วยก็จะนำมาทานเป็นผักเหนาะ (ภาษาใต้) หรือเป็นผักสด คู่กับผัดไทยอยู่แล้ว จึงนำกาบปลีกล้วยส่วนที่เหลือใช้มาลองทำเป็นภาชนะใส่ผัดไทยดู
ปรากฏว่ากลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ประกอบกับปกติทางครอบครัวก็ทำอาชีพเกษตรผสมผสานแบบปลอดสารพิษอยู่ด้วย จึงนำทุกอย่างมาใช้ในเมนูผัดไทย เช่น กล้วย มะนาว พริก โดยจะขายผัดไทยสูตรนี้ในราคากระทงละ 30 บาท และขายได้ประมาณวันละ 50 กระทง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
วันนี้ (22 ต.ค.) นายชัยฤทธิ์ วอนยินดี อายุ 69 ปี และนางลัดดาวัลย์ ชนะศรี อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาชาวตรัง เจ้าของร้านผัดไทยโบราณทรงเครื่องห่อกระทงปลีกล้วย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงานบริษัทเอกชนและเป็นอดีตผู้จัดการโรงงานแปรรูปอาหารทะเล ส่วนเมนูผัดไทยได้รับการสืบทอดมาจากคุณย่าตั้งแต่เมื่อ 40-50 ปีก่อน และได้ถ่ายทอดมาให้คุณแม่และตนเองในที่สุด
จนกระทั่งเมื่อมีการเปิดตลาดนัดชุมชนลานดอกโดน ในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านคลองคุ้ย ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทุกวันอาทิตย์ ตนเองและภรรยาจึงตัดสินใจลาออกจากงานเอกชนเพื่อมาเปิดร้านขายผัดไทยในซุ้มศาลา และได้ใช้กาบปลีกล้วยมาทำเป็นกระทงใส่ผัดไทย เพื่อต้องการช่วยลดโลกร้อน ซึ่งสร้างความแปลกตาและความชื่นชอบให้แก่ลูกค้าจนมีผลตอบรับที่ดีมาก
สำหรับผัดไทยโบราณทรงเครื่องห่อกระทงปลีกล้วยของร้านนี้ จะมีรสชาติครบเครื่องเหมือนชื่อ คือ ทั้งหวาน เปรี้ยว และเค็ม รวมทั้งยังมีกุ้งแห้ง กุ้งแดง ไชโป๊ว เต้าหู้ และเครื่องเคียงอื่นๆ ครบเครื่อง ส่วนการนำปลีกล้วยมาทำเป็นกระทงใส่ผัดไทยเกิดจากแนวคิดที่ว่า ทางตลาดนัดต้องการให้บรรจุภัณฑ์ต่างๆ เป็นธรรมชาติ ย่อยสลายได้ และไม่ใช้พลาสติกแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งปกติปลีกล้วยก็จะนำมาทานเป็นผักเหนาะ (ภาษาใต้) หรือเป็นผักสด คู่กับผัดไทยอยู่แล้ว จึงนำกาบปลีกล้วยส่วนที่เหลือใช้มาลองทำเป็นภาชนะใส่ผัดไทยดู
ปรากฏว่ากลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ประกอบกับปกติทางครอบครัวก็ทำอาชีพเกษตรผสมผสานแบบปลอดสารพิษอยู่ด้วย จึงนำทุกอย่างมาใช้ในเมนูผัดไทย เช่น กล้วย มะนาว พริก โดยจะขายผัดไทยสูตรนี้ในราคากระทงละ 30 บาท และขายได้ประมาณวันละ 50 กระทง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
Tags
ข่าวเมืองตรัง