โรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่ลามถึง จ.ตรัง แล้ว “กยท.” เร่งส่งเจ้าหน้าที่ลงไปกำจัด และควบคุมพื้นที่ป้องกันการลุกลาม เพราะได้สร้างผลกระทบให้อย่างรุนแรง และทำน้ำยางหดกว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร มาพบปะ และให้ความรู้แก่ผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนกลาง พร้อมกับตัวแทนสถาบันเกษตรกร จ.ตรัง และตัวแทนสภาเกษตรกร จ.ตรัง เกี่ยวกับปัญหาการระบาดของโรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่ ซึ่งเกิดจากเชื้อรา ที่ขณะนี้กำลังระบาดรุนแรงในหลายจังหวัดของภาคใต้
โดยล่าสุดได้เดินทางมายัง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อเร่งให้ความรู้ รวมทั้งให้แนวทางในการป้องกันควบคุมการระบาด เนื่องจากเป็นโรคระบาดใหม่ที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นอย่างมาก เพราะหากมีการระบาดในแปลงใดจะทำให้ใบร่วงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่น้ำยางหดหายไปประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ และหากกำจัดหรือควบคุมไม่ได้ อาจส่งผลต่อลำต้นทำเปลือกแห้งได้ สร้างผลเสียต่อพื้นที่สวนยางพารา และเกษตรกรจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราชนิดดังกล่าว โดยการใช้สารเคมี ทั้งการใช้เครื่องพ่น และการใช้โดรนบิน ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งสำรวจ และเตรียมพร้อมรับมือในการป้องกันกำจัด โดยในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง พบระบาดหนักมากที่สุดใน จ.พังงา แล้วประมาณ 20,000 ไร่ ขณะที่ จ.ตรัง พบแล้วในพื้นที่ 4 ตำบลของ อ.ย่านตาขาว ประกอบด้วย ต.โพรงจระเข้ ต.นาชุมเห็ด ต.หนองบ่อ และ ต.ทุ่งกระบือ เนื้อที่รวมแล้วประมาณ 400 ไร่ และอาจจะพบอีกในหลายอำเภอ
หลังจากนั้น ทั้งหมดได้ลงพื้นที่สาธิตวิธีการกำจัดเชื้อราในใบยางร่วงชนิดใหม่ด้วยวิธีการใช้โดรนบินพ่นเหนือแปลงระบาดของ นายประยูร นุกูลโรจน์ อายุ 86 ปี ในพื้นที่ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว เนื้อที่รวม 17 ไร่ โดยได้เกิดใบร่วงมาแล้วประมาณ 2 เดือน และเดิมเข้าใจว่าเป็นการร่วงปกติทั่วไปเมื่อฝนตกบ่อย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะใบร่วงเกือบหมดต้น ใบด่าง และน้ำยางหดลงเรื่อยๆ จากเดิมได้น้ำยางวันละประมาณ 50 กิโลกรัม แต่นานเข้าน้ำยางหดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือเพียงวันละ 14 กิโลกรัม จึงรู้ว่าเป็นโรคระบาดใบร่วงชนิดใหม่
นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กล่าวว่า ขณะนี้พบการระบาดของโรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่แล้วรวม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นราธิวาส ยะลา พังงา และ จ.ตรัง เนื้อที่รวมแล้วประมาณ 400,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโรคชนิดใหม่ ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การรับมือแก้ปัญหาในครั้งนี้จึงเป็นการทำงานควบคู่ไปกับงานด้านวิชาการ การจัดเก็บข้อมูล งานทดลอง ศึกษาวิจัยในทุกด้าน จึงได้มีนักวิชาการจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ มาร่วมภารกิจช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งนี้
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร มาพบปะ และให้ความรู้แก่ผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนกลาง พร้อมกับตัวแทนสถาบันเกษตรกร จ.ตรัง และตัวแทนสภาเกษตรกร จ.ตรัง เกี่ยวกับปัญหาการระบาดของโรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่ ซึ่งเกิดจากเชื้อรา ที่ขณะนี้กำลังระบาดรุนแรงในหลายจังหวัดของภาคใต้
โดยล่าสุดได้เดินทางมายัง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อเร่งให้ความรู้ รวมทั้งให้แนวทางในการป้องกันควบคุมการระบาด เนื่องจากเป็นโรคระบาดใหม่ที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราเป็นอย่างมาก เพราะหากมีการระบาดในแปลงใดจะทำให้ใบร่วงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่น้ำยางหดหายไปประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ และหากกำจัดหรือควบคุมไม่ได้ อาจส่งผลต่อลำต้นทำเปลือกแห้งได้ สร้างผลเสียต่อพื้นที่สวนยางพารา และเกษตรกรจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราชนิดดังกล่าว โดยการใช้สารเคมี ทั้งการใช้เครื่องพ่น และการใช้โดรนบิน ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งสำรวจ และเตรียมพร้อมรับมือในการป้องกันกำจัด โดยในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง พบระบาดหนักมากที่สุดใน จ.พังงา แล้วประมาณ 20,000 ไร่ ขณะที่ จ.ตรัง พบแล้วในพื้นที่ 4 ตำบลของ อ.ย่านตาขาว ประกอบด้วย ต.โพรงจระเข้ ต.นาชุมเห็ด ต.หนองบ่อ และ ต.ทุ่งกระบือ เนื้อที่รวมแล้วประมาณ 400 ไร่ และอาจจะพบอีกในหลายอำเภอ
หลังจากนั้น ทั้งหมดได้ลงพื้นที่สาธิตวิธีการกำจัดเชื้อราในใบยางร่วงชนิดใหม่ด้วยวิธีการใช้โดรนบินพ่นเหนือแปลงระบาดของ นายประยูร นุกูลโรจน์ อายุ 86 ปี ในพื้นที่ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว เนื้อที่รวม 17 ไร่ โดยได้เกิดใบร่วงมาแล้วประมาณ 2 เดือน และเดิมเข้าใจว่าเป็นการร่วงปกติทั่วไปเมื่อฝนตกบ่อย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะใบร่วงเกือบหมดต้น ใบด่าง และน้ำยางหดลงเรื่อยๆ จากเดิมได้น้ำยางวันละประมาณ 50 กิโลกรัม แต่นานเข้าน้ำยางหดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือเพียงวันละ 14 กิโลกรัม จึงรู้ว่าเป็นโรคระบาดใบร่วงชนิดใหม่
นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กล่าวว่า ขณะนี้พบการระบาดของโรคยางพาราใบร่วงชนิดใหม่แล้วรวม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นราธิวาส ยะลา พังงา และ จ.ตรัง เนื้อที่รวมแล้วประมาณ 400,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโรคชนิดใหม่ ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การรับมือแก้ปัญหาในครั้งนี้จึงเป็นการทำงานควบคู่ไปกับงานด้านวิชาการ การจัดเก็บข้อมูล งานทดลอง ศึกษาวิจัยในทุกด้าน จึงได้มีนักวิชาการจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ มาร่วมภารกิจช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งนี้
Tags
ข่าวเมืองตรัง