บุกรวบเจ้าของร้านอาหารชื่อดังเมืองตรัง หลังถูกร้องเรียนลักลอบค้าประเวณี

 ฝ่ายปกครอง อ.เมืองตรัง ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองตรัง บุกจับเจ้าของ “ร้านเปียโน” หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบค้าประเวณี รวบผู้จัดการ-เจ้าของร้าน พร้อมเงินสดของกลาง
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง และ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง ได้สั่งการให้ นายณหทัย สุนทรนนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองตรัง นำกำลังปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน กองร้อย อส.อ.เมืองตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รวมประมาณ 15 นาย เข้าจู่โจมเข้าตรวจสอบ และจับกุม “ร้านเปียโน” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหาร และมีเครื่องดนตรี ตั้งอยู่เลขที่ 2/1 ถนนโคกขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบค้าประเวณี
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการล่อซื้อบริการ พร้อมแสดงตัวจับกุม น.ส.พรวดี คงกัลป์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 ซอยร่วมใจ ต.นาสาร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรับเป็นผู้จัดการ และเจ้าของร้านเปียโน พร้อมเงินสด จำนวน 3,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำพนักงานหญิงทั้ง 9 คน ไปทำการสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อประกอบบันทึกการจับกุม และนำข้อมูลไปสู่การคัดแยกผู้เสียหาย พร้อมประสานทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มารับตัวไปฝึกวิชาชีพต่อไป

ทั้งนี้ มีการสืบทราบว่า ร้านเปียโน เป็นสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ได้ลักลอบค้าประเวณี โดยเปิดร้านอาหารบังหน้า จึงได้วางแผนเข้าทำการล่อซื้อประเวณีจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) เป็นการชั่วคราว โดยจ่ายเงินค่าบริการให้แก่ น.ส.เอ จำนวน 3,000 บาท ก่อนที่ น.ส.เอ จะแบ่งเงินค่าตัวให้แก่ น.ส.พรวดี เจ้าของร้าน จำนวน 2,000 บาท หน้าเคาน์เตอร์ 500 บาท และค่าห้องพักอีก 500 บาท แล้วพาเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเป็นผู้เข้ามาใช้บริการไปเปิดโรงแรมเพื่อร่วมหลับนอน จึงแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำ น.ส.พรวดี เจ้าของร้านเปียโน ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ตามมาตรา 9 และมาตรา 11 คือ 1.ข้อหาผู้ใดเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท และ 2.ข้อหาผู้ใดเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี หรือปรับ 60,000-300,000 บาท ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

---

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์