ชาวสวนยางพารา จ.ตรัง สุดดีใจหลังราคายางพุ่งขึ้นวันละ 1-2 บาท จนล่าสุดน้ำยางสดอยู่ที่ กก.ละ 65 บาทแล้ว แต่ก็มีอุปสรรคตรงที่ฝนตกหนักทำให้กรีดยางไม่ได้ แถมใบยังร่วงหล่น คาดเกิดโรคทำให้น้ำยางออกน้อย
วันนี้ (28 ต.ค.) ชาวสวนยางพาราในพื้นที่ ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง เร่งกรีดยางพาราและเก็บน้ำยางพาราส่งขายหลังฝนหยุดตกชั่วคราว เพื่อหารายได้ในช่วงที่ราคากำลังพุ่งสูงขึ้นไปอยู่ในราคาที่พอใจ เนื่องจากตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชาวสวนยางสามารถกรีดยางได้เพียง 3-4 วันเท่านั้น เพราะเกิดฝนตกหนักติดต่อกันทำให้กรีดยางพาราไม่ได้ น้ำยางออกน้อย ขณะที่ราคายางกำลังอยู่ในห้วงที่พุ่งสูงขึ้นกิโลกรัมละ 1-2 บาทต่อวัน
นางเอียด ภักดีจิตร อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.ควนปริง กล่าวว่า ตลอดเดือนตุลาคมนี้ ตนเองกับสามีได้กรีดยางพาราแค่ 3-4 วันเท่านั้น เนื่องจากฝนตกตลอดมา และปัญหาที่พบจากการที่ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ยางพาราเกิดโรค ใบร่วงหล่นจนหมดต้น น้ำยางออกน้อย โดยสวนของตนเนื้อที่ 10 ไร่ จากเดิมหากน้ำยางออกเต็มที่จะได้ประมาณวันละ 90 กว่ากิโลกรัม แต่ขณะนี้เหลือวันละไม่ถึง 20 กิโลกรัม ทำให้รายได้หายไปมาก แต่ดีใจที่ราคายางสูงขึ้นเพราะจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับที่จุดรับซื้อน้ำยางสดควนปริง หมู่ 8 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง พบว่า ชาวสวนต่างเร่งกรีดยางพาราในวันที่ฝนหยุดตก และเพิ่งได้กรีดมา 3-4 วันเท่านั้น เพราะฝนตกติดต่อกัน ดังนั้น ราคายางที่พุ่งขึ้นในช่วงนี้จึงยังไม่ค่อยไม่ได้รับประโยชน์ แต่ก็ดีใจ หวังว่าราคายางจะยังคงสูงขึ้น เพื่อให้ชาวสวนได้ลืมตาอ้าปากได้
ทางด้าน นายสุชาติ หุ้นย่อง พ่อค้ารับซื้อน้ำยางสดรายหนึ่งใน ต.ควนปริง กล่าวว่า ราคายางปรับตัวสูงขึ้นมาได้ประมาณ 14-15 วันแล้ว จากกิโลกรัมละ 42-43 บาท และปรับขึ้นมาวันละ 1-2 บาท แต่ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ โดยในวันนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาทแล้ว ทำให้ชาวสวนเริ่มยิ้มได้ แต่ฝนตกหนักก็ไม่ค่อยได้กรีดยาง และแนวโน้มคิดว่าราคายางน่าจะยังคงสูงขึ้นไปอีก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์