ผวจ.ตรังสั่งปิดโรงงานถุงมือชื่อดังตรวจเชื้อโควิด-19 พบผู้ที่มีผลบวกแล้ว 39 ราย


  ผู้ว่าฯ ตรังแถลงปิดโรงงานถุงมือชื่อดังชั่วคราวไม่มีกำหนด หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 และพบผู้ที่มีผลบวกแล้ว 39 ราย พร้อมกักตัวพนักงานทั้งหมดร่วม 1,600 คน เพื่อตรวจเชื้ออย่างเร่งด่วน


วานนี้ (28 พ.ค.) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง แถลงข่าวว่า จากกรณีที่วันนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 10 ราย ซึ่ง 2 ในนั้นเป็นเพศหญิง อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง และเพศหญิง อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว ซึ่งทั้งสองเป็นพนักงานบริษัทศรีตรังโกลฟ โรงงานถุงมือชื่อดัง แต่เนื่องจากโรงงานแห่งนี้มีคนงานเป็นจำนวนมากเกือบ 1,600 คน โดยเป็นคนไทยประมาณ 1,300 คน และเป็นคนพม่าประมาณ 300 คน

ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดอย่างเร่งด่วน ทางคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด จึงได้สั่งปิดโรงงานชั่วคราวไม่มีกำหนด และทาง CEO ของทางโรงงานได้ให้ความร่วมมือปิดโรงงานเพื่อกักตัวพนักงานทั้งหมด พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการตรวจเชื้ออีกด้วย

ด้าน นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงไปตรวจคนงานใน 3 แผนกอย่างทันที เพื่อตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสใกล้ชิด โดยครั้งแรกพบผู้ที่มีผลบวก 6 ราย และต่อมาพบผู้ที่มีผลบวกเพิ่มอีก 33 ราย รวมเป็น 39 ราย ซึ่งได้ส่งผู้ป่วยและผู้ที่มีผลบวกไปรักษาที่โรงพยาบาลกันตัง และโรงพยาบาลสนามแล้ว

นอกจากนั้น ล่าสุดยังได้นำคนงานมาตรวจเชื้อเพิ่มอีก 493 คน โดยยังเหลืออีกประมาณ 1,000 คน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ พร้อมทำการปิดโรงงาน และใช้โรงงานเป็นที่กักตัวของพนักงานที่มีผลเป็นลบ จึงขอฝากถึงโรงงานอื่นๆ ให้ป้องกันตัวเองและระมัดระวังให้มาก เพราะแม้โรงงานผลิตถุงมือเองจะมีมาตรการเข้มข้นแล้ว แต่ก็ยังพลาดพบผู้ติดเชื้อ






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า