กระทรวงการคลัง เผยนโยบายเตรียมปูพรมแก้หนี้ให้ประชาชน หยุดหนี้ทั้งเงินต้น-ดอก เยียวยาพิษโควิด 19 สำหรับลูกหนี้กับสถาบันการเงินของรัฐบาล ด้านนอนแบงก์ขอความร่วมมือไปแล้ว
วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีหนี้สิน เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองจนลูกหนี้หลายรายไม่สามารถแบกรับภาระหนี้สินใด้ไหว
ล่าสุด (15 กรกฎาคม 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนี้จะปูพรมช่วยเหลือประชาชนในการหยุดชำระหนี้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น โดยที่ผ่านมาประชาชนที่อยากรับการช่วยเหลือจะต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารนั้น ๆ ซึ่งให้พักหนี้และลดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือนหรือจนถึงสิ้นปี และพิจารณาเป็นราย ๆ แต่รอบนี้จะให้พักหนี้คลอบคลุมลูกหนี้ัทั้งหมด แต่เฉพาะธนาคารของรัฐเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ กระทรวงการคลังเสนอมาตรการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว
ล่าสุด (15 กรกฎาคม 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนี้จะปูพรมช่วยเหลือประชาชนในการหยุดชำระหนี้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น โดยที่ผ่านมาประชาชนที่อยากรับการช่วยเหลือจะต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารนั้น ๆ ซึ่งให้พักหนี้และลดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือนหรือจนถึงสิ้นปี และพิจารณาเป็นราย ๆ แต่รอบนี้จะให้พักหนี้คลอบคลุมลูกหนี้ัทั้งหมด แต่เฉพาะธนาคารของรัฐเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ กระทรวงการคลังเสนอมาตรการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว
สำหรับธนาคารของรัฐบาล ประกอบด้วย 7 ธนาคาร ได้แก่

ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ธนาคารออมสิน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์

ก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงการคลัง ได้เสนอ ครม. ให้ช่วยเหลือลูกหนี้เฉพาะรายที่ได้รับความเดือดร้อนเท่านั้น แต่รอบนี้จะช่วยเหลือทั้งหมด ไม่มีการพิจารณาเป็นราย ๆไป
สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่อยู่ในนอนแบงก์หรือผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์นั้น ทางกระทรวงการคลังจะขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวว่า ควรให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ แต่คงไม่สามารถไปบังคับให้ดำเนินการได้ เนื่องจากผู้ประกอบการดังกล่าวเป็นภาคเอกชน ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวไปบ้างแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, กรุงเทพธุรกิจ
Tags
ข่าวทั่วทิศ