ยอดขายปลากระชังริมฝั่งแม่น้ำตรังพุ่งสูง ประชาชนหันซื้อบริโภคหลังหมู-ไก่แพง


  ยอดขายปลากระชังริมฝั่งแม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้น หลังจากราคาหมู-ไก่แพงขึ้น แต่ประสบปัญหาเรื่องต้นทุนเช่นกัน เพราะค่าอาหารปลาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เดือดร้อนหนัก และอาจจำต้องขึ้นราคาปลาตาม


ที่กระชังปลาริมฝั่งแม่น้ำตรัง หัวสะพานจิจิก หมู่ 1 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ของ “ลุงอรุณ” หรือนายอรุณ พงษ์พิพัฒน์ อายุ 61 ปี ซึ่งยึดอาชีพเลี้ยงปลากระชังริมฝั่งแม่น้ำตรังมาร่วม 19 ปีแล้ว ประกอบด้วย ปลาทับทิม ปลานิล และปลากด กำลังเร่งจับตัวใหญ่ที่ได้ขนาดมาพักไว้ในกระชังพักปลา เพื่อเตรียมพร้อมไว้ขายให้ลูกค้าที่เดินทางมาจอดรถแวะซื้อกันไม่ขาดสาย รวมทั้งส่งพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อประจำ เนื่องจากเลี้ยงในแม่น้ำตรังที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา รสชาติจึงหวานมัน เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว

โดยขณะนี้มีปลาในกระชังอยู่ทั้งหมด 9 กระชังๆ ละ 1,500 ตัว รวมประมาณ 10,000 กว่าตัว ซึ่งหลังจากราคาหมูแพง ไก่แพง พบว่าทำให้ยอดขายปลากระชังเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมเคยขายอยู่ประมาณวันละ 40-50 กิโลกรัม แต่ขณะนี้สามารถขายได้ถึงวันละ 60-70 กิโลกรัม ทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้าขาจรที่จะเดินทางมาซื้อกันไม่ขาดสาย ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 7,000 บาท โดยลูกค้าที่มาซื้อปลากระชังไปทำอาหาร จะมีการชำแหละปลาให้พร้อมนำไปปรุง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า นอกจากนั้นยังได้นำไตปลาสดๆ มาทำเป็นไตปลาขาย ในราคาขวดละ 30 บาทอีกด้วย เพื่อเพิ่มรายได้ ลดภาระต้นทุนการผลิต


ลุงอรุณ และนางฉลาด พงษ์พิพัฒน์ สองสามีภรรยา บอกว่า จากภาวะที่หมู และไก่มีราคาแพง ทำให้คนหันมากินปลากันมากขึ้น แต่ตนเองยังคงขายราคาเดิม ไม่อยากปรับขึ้นเพราะสงสารลูกค้า คือ ปลานิล และปลาทับทิม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนปลากด ราคากิโลกรัมละ 200 บาท แต่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆ คือ อาหารปลาที่สูงขึ้น จากเดิมน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ราคากระสอบละ 430 บาท ขณะนี้ปรับขึ้นมาที่กระสอบละ 468 บาทแล้ว โดยตนเองสั่งมาคราวละ 50 กระสอบ ปลาที่มีในกระชัง จำนวน 9 กระชัง ใช้เวลากินเพียงประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2,000 บาท

อีกทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้แจ้งปรับราคาอาหารขึ้นอีก 3% หรือเฉลี่ยกระสอบละ 15 บาท ราคาจึงได้ปรับขึ้นไปอีกอยู่ที่กระสอบละ 483 บาท ซึ่งจะยิ่งทำให้เดือดร้อนมากขึ้น ดังนั้น ภาครัฐควรเร่งกำกับดูแลเรื่องของราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน ส่วนปลากระชังรุ่นต่อไปในสิ้นเดือนนี้อาจจะต้องมีการปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 110 บาท เพื่อให้ธุรกิจไปรอด












    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า