“ร้านจริงจิตร” รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมระดับประเทศ จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ


  ผลการคัดเลือกรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2565 ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ “ร้านจริงจิตร” อ.เมืองตรัง ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ระดับดี ประเภทงานอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมและชุมชน


เมื่อเร็วๆ นี้ ผศ.ตรีชาติ เลาแก้วหนู รองคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เผยผลการคัดเลือกรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2565 ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ผศ.ตรีชาติ เลาแก้วหนู อาจารย์กรสวรรค์ชนก ตั้งปอง และอาจารย์วิสุทธิ์ นุชนาบี อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตตรัง ได้นำเสนอข้อมูลของ “ร้านจริงจิตร” เข้าชิงรางวัล และได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ระดับดี ประเภทงานอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมและชุมชน ประจำปี พ.ศ.2565 โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์


ผศ.ตรีชาติ เผยว่า ที่ผ่านมา “ร้านจริงจิตร” ได้รับการทำนุบำรุงซ่อมแซมมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาเกือบ 100 ปี ภายใต้แนวความคิดในการรักษาความเป็นของแท้ดั้งเดิม (Authenticity) ของตัวสถาปัตยกรรมเอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งวัสดุก่อสร้าง เทคนิคการก่อสร้าง และฝีมือช่าง รวมไปถึงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม การอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมร้านจริงจิตร อย่างเข้าใจ และมีส่วนร่วมของเจ้าของอาคาร ส่งผลให้ร้านจริงจิตร ยังคงคุณค่าความสำคัญในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญของ จ.ตรัง อีกทั้งยังเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจของเมืองตรัง รวมทั้งการสะท้อนถึงภูมิปัญญาแห่งฝีมือช่างชาวจีนจากอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน


“ร้านจริงจิตร” ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 193 ถนนห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ก่อสร้างขึ้นประมาณปีพุทธศักราช 2465 ปัจจุบันมีอายุครบ 100 ปี เป็นร้านขายขนมมงคลที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีนแห่งแรกๆ ของ จ.ตรัง และยังคงขายมาจนถึงปัจจุบัน โดยลักษณะของร้านมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมมลายู คือ มีลักษณะการวางผังแบบเรือนแถวจีน แต่มีการสร้างหลังคา และประดับลวดลายตกแต่งไม้ฉลุแบบมลายู ผนังชั้นล่างเป็นผนังคอนกรีตหล่อด้วยไม้แบบเป็นชั้นๆ ส่วนผนังชั้นบนเป็นผนังไม้ตีเกล็ดทางนอน ประตูด้านหน้าเป็นประตูบานเฟี้ยม และประตูบานเปิดไม้ผสมกัน มีลักษณะเป็นประตูกล คือ จะต้องมีการถอดสลักก่อนที่จะเปิดประตูได้ ช่องหน้าต่างเป็นบานเปิดไม้ ผนังชั้นล่างประดับช่องลมรูปแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบจีน

ตัวอาคารการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ด้านหน้าใช้เป็นร้านขายขนม ส่วนด้านหลังใช้เป็นห้องครัว ด้านข้างเชื่อมต่อกับพื้นที่ทำขนม โดยมีที่ว่างสำหรับล้างอุปกรณ์ และมีบ่อน้ำสำหรับรองรับน้ำฝนที่ใช้ในหน้าแล้ง ตัวร้านชั้นบนใช้เป็นที่พักอาศัย มีระเบียงด้านหน้าประดับแผงกันสาดเป็นไม้ฉลุแบบมลายู ฝาภายในอาคารเป็นฝาไม้ตีซ้อนกันทางตั้ง อาคารยังคงสภาพความสมบูรณ์แบบดั้งเดิมอย่างครบถ้วน










    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์

    แสดงความคิดเห็น

    ใหม่กว่า เก่ากว่า